รีวิวเกม Front Mission 1st Remake เกมแนววางแผนการรบเทิร์นเบส สงครามหุ่นเหล็กในตำนาน
รีวิวเกม Front Mission 1st Remake เกมที่ประสบความสำเร็จแบบเงียบ ๆ ก็คงหนีไม่พ้นซีรีส์ Front Mission เกมแนววางแผนการรบเทิร์นเบส ใส่คำสั่งที่วางขายบน Super Famicom ในปี 1995 ความโดดเด่นของเกมทำให้มันขายดีจนสามารถสร้างภาคต่ออกมาได้ แม้ว่าพักหลังจะเงียบ ๆ ไปบ้างแต่สำหรับเด็กยุค 90S น่าจะเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง และในที่สุดมันก็มีการนำมารีเมกในชื่อ Front Mission 1st Remake แบบทำกราฟิกใหม่หมดลงบน Nintendo Switch แม้จะเปิดตัวแบบเงียบ ๆ เหมือนต้นฉบับแต่สำหรับคนที่เคยเล่นแล้วก็ต้องไปหามาเล่น
เรื่องราวใน Front Mission 1st Remake จะเหมือนกับต้นฉบับ ที่จะเกิดในโลกอนาคตในปี 2090 โลกใช้หุ่นยนต์ที่เรียกว่า Wanzers มาทำสงครามกัน ตัวละครหลัก Royd Clive ทหารของหน่วย OCU ที่ต้องออกไปทำภารกิจสำรวจโรงงานผลิตอาวุธของ USN บนเกาะ Huffman แต่แล้วเรื่องราวก็เกิดเพราะทีมของเขาถูกสุ่มโจมตีโดยหุ่น Wanzers ของ USN ที่จุดชนวนไปสู่สงครามครั้งใหม่
กราฟิกปรับใหม่
เนื่องจากขึ้นชื่อว่าเป็นการรีเมกกราฟิกก็ต้องยกเครื่องใหม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งใน Front Mission 1st Remake ถือว่าทำออกมาเอาใจแฟนยุคเก่าพอสมควร เพราะทุกอย่างยังคงเดินตามรอยเดิมสมัย Super Famicom แต่จะถูกสร้างด้วย Engine ของเกมยุคใหม่ โดยเฉพาะตัวหุ่นยนต์ที่เปลี่ยนเป็นเป็น 3 มิติ ฉากในเกมก็มีมุมมองใหม่ที่ปรับมุมกล้องได้เพราะป็น 3D เช่นกัน
แต่หนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จแบบเงียบ ๆ ก็คงหนีไม่พ้นซีรีส์ Front Mission เกมแนววางแผนการรบเทิร์นเบส ใส่คำสั่งที่วางขายบน Super Famicom ในปี 1995 ความโดดเด่นของเกมทำให้มันขายดีจนสามารถสร้างภาคต่ออกมาได้ แม้ว่าพักหลังจะเงียบ ๆ ไปบ้างแต่สำหรับเด็กยุค 90S น่าจะเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง
ในที่สุดมันก็มีการนำมารีเมกในชื่อ Front Mission 1st Remake แบบทำกราฟิกใหม่หมดลงบน Nintendo Switch แม้จะเปิดตัวแบบเงียบ ๆ เหมือนต้นฉบับแต่สำหรับคนที่เคยเล่นแล้วก็ต้องไปหามาเล่น
เรื่องราวใน Front Mission 1st Remake จะเหมือนกับต้นฉบับ ที่จะเกิดในโลกอนาคตในปี 2090 โลกใช้หุ่นยนต์ที่เรียกว่า Wanzers มาทำสงครามกัน ตัวละครหลัก Royd Clive ทหารของหน่วย OCU ที่ต้องออกไปทำภารกิจสำรวจโรงงานผลิตอาวุธของ USN บนเกาะ Huffman แต่แล้วเรื่องราวก็เกิดเพราะทีมของเขาถูกสุ่มโจมตีโดยหุ่น Wanzers ของ USN ที่จุดชนวนไปสู่สงครามครั้งใหม่

เนื่องจากขึ้นชื่อว่าเป็นการรีเมกกราฟิกก็ต้องยกเครื่องใหม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งใน Front Mission 1st Remake ถือว่าทำออกมาเอาใจแฟนยุคเก่าพอสมควร เพราะทุกอย่างยังคงเดินตามรอยเดิมสมัย Super Famicom แต่จะถูกสร้างด้วย Engine ของเกมยุคใหม่ โดยเฉพาะตัวหุ่นยนต์ที่เปลี่ยนเป็นเป็น 3 มิติ ฉากในเกมก็มีมุมมองใหม่ที่ปรับมุมกล้องได้เพราะป็น 3D เช่นกัน

อย่างไรก็ตามมันก็ดูเชยไปหน่อยสำหรับเกมที่วางขายในปี 2022 เพราะภาพระดับนี้ควรจะเป็นเกมบนสมาร์ทโฟนมากกว่าจะออกบนคอนโซล เพราะในฉากนอกจากความคมชัดแล้วก็ไม่ได้ใส่ลูกเล่นแสงสีอะไรเข้าไปเลย ทำให้กราฟิกของมันเหมือนเกมเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมากกว่า ยังดีที่ดนตรีประกอบได้ยกเอาความยอดเยี่ยมจากต้นฉบับที่เป็นผลงานของ โยโกะ ชิโมมูระ (Yoko Shimomura) มาปรับแต่งเสียงใหม่แต่ใครไม่ชอบก็สามารถเลือกแบบต้นฉบับได้
สรุป
Front Mission 1st Remake เป็นการรีเมกที่เอาใจแฟนเก่าแก่กันแบบจัดเต็ม แต่อาจจะไม่เหมาะกับแฟนหน้าใหม่ เพราะสิ่งที่เพิ่มมาน้อยไปหน่อย และเกมเพลย์ในยุคนี้ถือว่าเชยไปมากแล้ว แม้มันจะปรับความเร็วในการเล่นให้เร็วกว่าต้นฉบับก็ตาม แต่เด็กรุ่นใหม่ที่โตมากับเกมยิงอาจจะไม่ชอบ อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนตัวจริงที่เคยชอบมาตั้งแต่สมัย Super Famicom มันเป็นความสนุกวัยเด็กที่มีครบแถมกราฟิกยังทำใหม่หมด ใครเคยเล่นมาก่อนแนะนำว่าไม่ควรพลาด
อ่านเพิ่มเติม >>>>> loadgamekung
เกมส์ออนไลน์ได้เงินจริง >>>>> สมัคร