รีวิว Mass Effect เกมในตำนานภาพสวย ชาวเกมเมอร์รอคอย
รีวิว Mass Effect จุดที่โดดเด่นที่สุดของเกม Mass Effect Legendary Edition กันก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเรื่องของคุณภาพงานภาพและงานเสียงที่ดีขึ้นกว่าเกมเวอร์ชันต้นตำรับอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเกม Mass Effect ภาค 1 และภาค 2 ที่ได้รับการขัดเกลาจนน่าดูชมไม่ต่างจากเกมอื่น ๆ ในยุคปัจจุบัน ด้วยงานภาพเท็กซ์เจอร์ที่ละเอียดระดับ 4K พร้อมกับเฟรมเรตที่ลื่นหัวแตกจนสามารถพุ่งไปแตะ 120 fps ในเครื่อง PC
และคอนโซลเน็กซ์เจนได้สบาย ส่วนคุณภาพเสียงก็ได้รับการขัดเกลาใหม่จนเสียงเอฟเฟกต์ปืนฟังดูหนักแน่นทรงพลังแทบทุกกระบอก เสียงพูดของตัวละครในบทสนทนาส่วนใหญ่ก็ชัดเจนขึ้นจนไม่ต้องเงี่ยหูใกล้ลำโพงอีกต่อไป และเสียงดนตรีประกอบเกมแบบเพลงเทคโนผสมออเคสตร้าก็ฟังระรื่นหูมาก ที่สำคัญเกมยังโหลดเร็วกว่าเดิมมากราวกับเพิ่งเอาเครื่องยนต์ความเร็วแสงมาติดตั้ง กะพริบตาไม่กี่ทีก็พร้อมให้ลุยจักรวาลกันต่อแล้ว บางคนอาจจะสงสัยว่าแค่การปรับโฉมภาพเสียงอะไรเทือกนี้มันส่งผลกับความสนุกเกมด้วยเหรอ? ก็ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าภาพคม ๆ เสียงดี ๆ และเฟรมเรตเกมลื่น ๆ ช่วยให้เกมสนุกกว่าเดิมได้อีกเยอะเลยนะครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากใน Mass Effect Legendary Edition ก็คือการที่ระบบเกมเพลย์ของภาคหนึ่งได้รับการพัฒนาแบบยกเครื่อง โดยทีมพัฒนา Bioware เขาปรับ UI ของเกมภาคแรกให้ดูใกล้เคียงกับภาค 2 และภาค 3 มากขึ้น ทำให้คุณสามารถดูพลังชีวิตและเรียกใช้ท่าพิเศษจากเหล่าเพื่อนในทีมได้ง่ายขึ้น ทั้งยังปรับระบบการอัปเลเวลให้ผู้เล่นเลือกแบบ Legendary Mode ได้ ช่วยให้คุณสามารถไต่เลเวลจนเต็มแม็กซ์ได้ในการเล่นรอบเดียว
โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเล่น New Game Plus อีกที และที่สำคัญคือเกมยังปรับ AI ของทั้งฝั่งศัตรูและเพื่อนร่วมทีมให้สู้อย่างฉลาดมากขึ้น ช่วยให้ฉากแอ็คชันในเกมภาคหนึ่งสนุกขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของรถหุ้มเกราะ 6 ล้อนามว่า Mako ก็ได้รับการจูนให้ขับขี่ได้คล่องตัวขึ้นบ้าง ขับไหลไปไหลมาน้อยลงหน่อย แต่จะให้บอกว่ามันขับสนุกจนเหมือนเล่นเกมรถแข่งเลยก็คงไม่ใช่ เอาเป็นว่าแค่ขับแล้วรู้สึกปวดหัวน้อยลงเท่านั้นแหละ
ปัญหาจุกจิกเต็มจักรวาล
ถึงแม้ Legendary Edition จะขัดเกลาขึ้นจากไตรภาค Mass Effect เวอร์ชันต้นตำรับหลายจุด แต่มันก็ยังมีตำหนิเหลือเอาไว้ให้เห็นอีกหลายที่เช่นกัน จุดที่แปลกมากเรื่องแรกก็คือยิ่งคุณเล่นเกม Mass Effect Legendary Edition ไปถึงภาคท้าย ๆ มากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้สึกว่าคุณภาพงานภาพและงานเสียงของมันด้อยลงเท่านั้น กลายเป็นว่าภาคแรกภาพและเสียงดีที่สุด ภาพสองก็ดีใช้ได้ แต่พอถึงภาค 3 มันดันดูธรรมดาซะจนแทบไม่ค่อยต่างจากเกมเวอร์ชันแรก
ทั้งที่มันควรเป็นภาคที่มีเทคโนโลยีกราฟิกเอนจินที่ทันสมัยที่สุด สาเหตุของความพิลึกนี้คงมาจากการที่ทีมพัฒนาเขาดันไปทุ่มปรับโฉมเกมภาคหนึ่งและภาคสองมากกว่า โดยให้เหตุผลว่าเกมภาค 3 “มันดีของมันอยู่แล้ว” ซึ่งมันก็ดีแหละ… สำหรับเมื่อ 9 ปีที่แล้วอะนะ จุดนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่ Bioware ดันไม่ให้ความสำคัญกับการปรับโฉมอย่างเท่าเทียมกันทั้ง 3 ภาค นอกจากนี้ภาพยนตร์คั่นฉากของทุกภาคก็ดันไม่ได้รับการขัดเกลมาดีเท่าที่ควร ทำให้ภาพในคัตซีนไม่คมชัดเท่าภาพในเกมเพลย์ด้วยซ้ำ
แฟนรุ่นเก๋า ต้องจำได้
อาจจะไม่ใช่เกมรีเมคที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่มันเป็นดั่งแคปซูลกาลเวลาที่ทีมพัฒนา Bioware เขาขุดออกมาขัดสีฉวีวรรณใหม่ เป็นเหมือนของดีหลงยุคที่ไม่มีใครทำออกมาซะแล้ว และที่น่าเศร้ากว่าคือมันอาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วในอนาคต เพราะทั้งวงการวิดีโอเกม EA และ Bioware
ต่างแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลากันหมด แต่ Mass Effect Legendary Edition ยังไม่เปลี่ยนไป มันยังคงมอบประสบการณ์ความสนุกจากการได้เล่นเกมที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตาม ประสบการณ์การเกมเล่นคนเดียวที่สามารถเล่นแบบคุ้ม ๆ ยาว ๆ ได้เป็น 100 ชั่วโมงแบบไม่ต้องห่วงว่าจะต้องออนไลน์ไปเจอใครบ้าง หรือต้องไปจ่ายเงินซื้อของ Micro-Transaction ในเกมรึเปล่า
อ่านเพิ่มเติม >>>>> loadgamekung
เกมส์ออนไลน์ได้เงินจริง >>>>> สมัคร