รีวิวเกม Splatoon 3 อเกมสุดมันสงคราม สีน้ำหมึกฉบับอัปเกรด

รีวิวเกม Splatoon 3 เกมที่สร้างจากปู่นินจะเต็มไปด้วยไอเดียที่สดใหม่ เช่นเกมยิงปรกติ

รีวิวเกม Splatoon 3 Nintendo ขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายที่ชอบคิดต่างจากชาวบ้าน ทำให้เกมที่สร้างจากปู่นินจะเต็มไปด้วยไอเดียที่สดใหม่ เช่นเกมยิงปรกติจะใช้ปืนไล่ยิงกัน แต่ของ Nintendo เปลี่ยนมาเป็นการยิงน้ำหมึกสาดสีใส่กันแทน จนกำเนิดเป็นซีรีส์ใหม่อย่าง Splatoon วางขายในปี 2015 บน WiiU

และเนื่องจากมันประสบความสำเร็จทำให้มีการสานต่อภาค 2 บน Nintendo Switch ในปี 2017 ที่แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์ว่ามันไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหากดูแค่ภายนอก แต่เมื่อได้สัมผัสก็เพิ่มเติมหลายส่วนรวมทั้งการเอาไปเล่นนอกบ้านได้ทำให้มันขายดีกว่าเดิม ทำให้มีการสร้าง Splatoon 3 วางขายในปี 2022 บน Switch เหมือนเดิม

รีวิวเกม Splatoon 3

กราฟิก

สิ่งที่อาจจะทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นคือกราฟิกในเกมที่แทบจะถอดแบบมาจากภาค 2 ก็เข้าใจได้ว่ามันยังคงออกบน Nintendo Switch ที่น่าจะทำได้ดีที่สุดแค่นี้แล้ว แต่หากมองข้ามไปถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย รายละเอียดของตัวละครที่มาแนวการ์ตูนน่ารักก็ยังคงดูดีและคมชัด และที่ต้องชมคือความลื่นไหลในฉากหลักที่ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม แต่ในฉากเมืองยังคงพบปัญหาเฟรมเรตแต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ

โดยรวมแล้วกราฟิกใน Spatoon 3 ยังคงไม่ได้ยกระดับให้ดูแตกต่างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะซีรีส์นี้ภาพไม่ใช่เรื่องสำคัญอยู่แล้ว หันมามองที่เพลงประกอบที่ยังคงเดินตามรอย 2 ภาคแรกที่เต็มไปดนตรีธีมสนุกสนาน และมีความเป็น JPop แบบจัดเต็ม ที่การกลับมาครั้งที่ 3 ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ยอดเยี่ยมมีดนตรีสนุก ๆ ที่ช่วยเสริมให้การทำสงครามสาดน้ำหมึกสนุกสนานกว่าเดิม แต่ภาคนี้ยังคงไม่มีเสียงพากย์ของตัวละครเหมือนเดิมซึ่งมันไม่ใช่ของเสียแต่มันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ไปแล้ว

รีวิวเกม Splatoon 3

เกมเพลย์

สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่น Splatoon มาก่อนขอเกริ่นสักหน่อย เกมเพลย์ของซีรีส์นี้จะเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นมนุษย์ปลาหมึก inkling และ octoling ที่จะใช้ปืนฉีดน้ำสาดสีโจมตีศัตรูและทำพื้นที่ และเราสามารถแปลงร่างเป็นปลาหมึกเพื่อดำดิ่งลงไปในน้ำหมึกที่เราสาดสีไปบนพื้นหรือกำแพงได้ และเมื่อเราดำอยู่ในน้ำหมึกจะมีความเร็วสูงมาก แต่ก็ต้องระวังเพราะหากไปโดนน้ำหมึกของทีมตรงข้ามก็จะพลังลดจนตายได้

ด้วยรูปแบบการดำน้ำหมึกทำให้ตัวละครเคลื่อนไหวได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการไต่กำแพง หรือพุ่งตัวกระโดด ถือว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้เกมยิงไม่มีความรุนแรง และยังเกิดเป็นรูปแบบการเล่นใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และใน Splatoon 3 ยังคงใช้รูปแบบการเล่นเดิมทำให้ผู้ที่เคยเล่น 2 ภาคแรกมาก่อนไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แน่นอนว่าการบังคับในส่วนของมุมกล้องจะมีรองรับระบบจับการเคลื่อนไหวด้วย ซึ่งหากไม่ชอบก็ปิดได้เพราะการเล่นต้องมือนิ่งพอสมควรไม่งั้นมุมกล้องจะเปลี่ยนเร็วเกินไปจนเวียนหัวได้

สรุป

การกลับมาของสงครามสาดน้ำหมึกใน Splatoon 3 ทำได้ดีตามที่คาดหวังไว้ มีเกมเพลย์สนุกลื่นไหล โหมดเล่นคนเดียวก็มีความยาวพอสมควรเล่นได้ยาวนาน ส่วนโหมดออนไลน์ก็ทำได้ดีเหมือนเดิมแม้จะไม่ได้มีของใหม่เสริมเข้ามามากนัก แต่แค่นี้ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมและเป็นอีกหนึ่งในเกมที่ไม่ควรพลาดหากคุณมี Nintendo Switch

อ่านเพิ่มเติม >>>>>  loadgamekung

เกมส์ออนไลน์ได้เงินจริง >>>>>  สมัคร